ยางกันกระแทก หรือยางรองแท่นเครื่อง และยางกันชน ถือเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่จะละเลยไปไม่ได้ สำหรับงานอุตสาหกรรมที่ใช้งานเครื่องจักรหนักหรืออุปกรณ์ที่มีการเคลื่อนที่ เพราะยางเหล่านี้มีความสำคัญไม่แพ้กับชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบของเครื่องจักรอื่นๆ โดยยางเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการช่วยลดแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน รวมถึงยังช่วยยืดอายุการใช้งาน ของเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งหน้าที่ของยางกันกระแทก หรือยางรองแท่นเครื่อง และยางกันชนไม่ได้มีเพียงเท่านี้ วันนี้เราเลยขอพาไปดูความสำคัญและประโยชน์ของยางเหล่านี้กันว่ามีอะไรบ้าง รวมไปถึงชวนทำความรู้จักยางแต่ละประเภทว่าคืออะไร และทำหน้าที่อย่างไร พร้อมข้อดีที่ผู้ใช้เครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรมไม่ควรพลาด
ทำความรู้จักกับยางกันกระแทกและยางกันชน พร้อมข้อดีที่ไม่ควรพลาด
ยางกันกระแทกคืออะไร ทำหน้าที่อะไร
ยางกันกระแทก คือ ยางที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงกระแทก ลดการสั่นสะเทือน และป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำงานของเครื่องจักร โดยอาจมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามการใช้งาน ซึ่งขึ้นอยู่กับว่ามีการติดตั้งเพื่อใช้งานในตำแหน่งและรูปแบบใด เช่น ยางรองแท่นเครื่องที่ใช้กับเครื่องจักรอุตสาหกรรมจักรทำหน้าที่กันกระแทกหรือลดแรงสั่นสะเทือนของเครื่องจักรที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน โดยติดตั้งอยู่ใต้ของเครื่องจักร
ประเภทของยางกันกระแทก
ยางกันกระแทกหรือลูกยางกันสะเทือนแบบที่มีน็อตตัวเมีย 1 ด้าน ซึ่งสามารถนำไปติดตั้งน็อตตัวเมียเข้ากับพื้นผิวหรือชิ้นงานที่ต้องการป้องกันการกระแทก และใช้น็อตตัวผู้เกลียวเข้าในน็อตตัวเมียเพื่อยึดติดกับชิ้นงานหรืออุปกรณ์ที่ต้องการ ยางกันกระแทกประเภทนี้จะช่วยดูดซับแรงกระแทกและการสั่นสะเทือนจากการใช้งานเครื่องจักร หรือการเคลื่อนไหวของอุปกรณ์ต่างๆ
-
- ยางกันกระแทกหรือลูกยางกันสะเทือนแบบที่มีน็อตตัวผู้ 1 ด้าน, แบบน็อตตัวผู้ 2 ด้าน (Dual-Sided Male Nut Vibration Damper) ซึ่งช่วยให้สามารถยึดติดกับชิ้นส่วนที่มีเกลียวตัวเมีย (female thread) ได้ทั้งสองด้านที่มีอยู่ในชิ้นส่วนหรือโครงสร้างที่ต้องการป้องกันการกระแทก โดยจะช่วยให้ยึดติดได้อย่างมั่นคงรวมถึงช่วยลดผลกระทบจากการกระแทกและการสั่นสะเทือน
-
- ยางกันกระแทกหรือลูกยางกันสะเทือนแบบน็อตตัวเมีย 2 ด้าน (Dual-Sided Female Nut Vibration Damper) คือมีน็อตตัวเมีย 2 ด้านของยางกันกระแทก ซึ่งช่วยให้สามารถยึดติดกับน็อตตัวผู้ (male threaded) ที่มีอยู่ในชิ้นส่วนหรือโครงสร้างที่ต้องการป้องกันการกระแทกได้ทั้งสองด้าน โดยจะช่วยให้ยึดติดได้อย่างมั่นคง รวมถึงมีความยืดหยุ่นกว่า สามารถช่วยลดผลกระทบจากการกระแทกหรือการสั่นสะเทือน และช่วยลดการส่งผ่านแรงสั่นสะเทือนจากชิ้นส่วนหนึ่งไปยังอีกชิ้นส่วนหนึ่ง
ยางกันชนคืออะไร ทำหน้าที่อะไร
ยางกันชน (Bumper Rubber) ทำหน้าที่คล้ายกับยางกันกระแทก เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อป้องกันการกระแทกและลดการสั่นสะเทือน โดยทั่วไปจะทำหน้าที่เป็นเบาะรองรับแรงกระแทกเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการชน มักติดตั้งในตำแหน่งที่ต้องรับแรงกระแทกเป็นประจำ เพื่อช่วยลดความเสียหายต่อโครงสร้างและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
คุณสมบัติหลักของยางกันชน
- วัสดุ ยางกันชนโดยทั่วไปมักทำจากยางธรรมชาติหรือยางสังเคราะห์ที่มีความยืดหยุ่นและความทนทานสูง จึงช่วยในการดูดซับแรงได้ดี รวมถึงช่วยลดการสั่นสะเทือน
- รูปทรง มีรูปทรงที่หลากหลาย เช่น แบบกลม, แบบแบน, หรือแบบสี่เหลี่ยม เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานที่ต้องการ
- การติดตั้ง มักจะมีรูหรือวิธีการติดตั้งที่หลากหลาย เช่น การติดตั้งด้วยสกรู
การใช้งานยางกันชน
- ใช้ในภาคอุตสาหกรรม เช่น ใช้กับเครื่องจักร เพื่อป้องกันแรงกระแทกและลดการสั่นสะเทือนที่อาจทำให้เครื่องจักรเสียหาย, ใช้ในการขนส่ง เพื่อป้องกันการกระแทกในระหว่างการขนส่งสินค้า
- ใช้ในยานยนต์ เช่น บริเวณกันชนรถยนต์ เพื่อป้องกันความเสียหายจากการชน และลดแรงกระแทกและลดความเสียหายที่กระทบต่อโครงสร้างของรถและอาคาร
- ใช้ในงานอาคารและโครงสร้าง เช่น บริเวณประตูหน้าต่าง เพื่อป้องกันการชนที่อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อประตูหรือกรอบหน้าต่าง รวมถึงยังใช้กับบริเวณผนังได้เช่นกัน เพื่อป้องกันการกระแทกที่อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนหรือความเสียหาย
ทำไมต้องเป็นวัสดุยางกันกระแทกและยางกันชน
- ยางมีความยืดหยุ่น ด้วยความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถเปลี่ยนรูปได้ภายใต้แรงกดและแรงสั่นสะเทือน พร้อมทั้งยังช่วยดูดซับและกระจายพลังงานการสั่นสะเทือนออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ลดแรงกระแทกที่จะส่งผลเสียต่อโครงสร้างโดยรอบได้
- ยางมีคุณสมบัติการหน่วง ยางสามารถดูดซับและกระจายพลังงานจลน์เป็นความร้อนได้ เมื่อเกิดการสั่นสะเทือน ยางจะแปลงพลังงานกลไปเป็นพลังงานความร้อน จนส่งผลให้สามารถลดผลกระทบจากการสั่นสะเทือนลงได้
- ยางมีความสามารถในการแยกการสั่นสะเทือน ช่วยป้องกันไม่ให้การสั่นสะเทือนจากส่วนหนึ่งของเครื่องจักรหรือโครงสร้างไปยังอีกส่วนหนึ่ง จึงช่วยลดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมโดยรอบ และลดโอกาสที่จะเกิดเสียงสะท้อน
- ยางมีความทนทาน คุณสมบัติโดยทั่วไปของยางนั้นมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย หรือหากต้องการให้ทนต่อสภาพแวดล้อมที่มีความจำเพาะก็สามารถเลือกชนิดของยางที่มีคุณสมบัติพิเศษได้ เช่น การทนทานต่อน้ำมัน ทนทานต่อสารเคมี เป็นต้น
ข้อดีของการใช้ยางกันกระแทกและยางกันชนกับเครื่องจักรอุตสาหกรรม
- ช่วยป้องกันความเสียหาย ยางกันกระแทกและยางกันชนช่วยลดและดูดซับแรงกระแทกระหว่างวัตถุที่เคลื่อนที่หรือมีการสั่นสะเทือนลงได้โดยการ
กระจายแรงของน้ำหนักเพื่อให้ชิ้นส่วนต่างๆ ทำงานได้อย่างปกติ และไม่เกิดความเสียหาย - ช่วยลดเสียงรบกวน โดยช่วยดูดซับเสียงจากการกระทบกันของวัสดุ จึงทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน ไม่เกิดเสียงรบกวนระหว่างการทำงาน
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยช่วยให้เครื่องจักรทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ทำงานได้โดยไม่ติดขัดและช่วยลดปัญหาต่างๆ ในการทำงานได้
- ช่วยยืดอายุการใช้งาน โดยช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ ชิ้นส่วน หรือโครงสร้างที่ต้องรับแรงกระแทกบ่อยครั้งได้ ไม่ให้เกิดการสึกหรอได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและซ่อมแซม
- ใช้งานได้หลากหลาย โดยสามารถใช้งานกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย ทั้งในภาคอุตสาหกรรม และภาคอื่นๆ เช่น ภาคยานยนต์ ภาคครัวเรือน เป็นต้น
ยางกันกระแทกและยางกันชนนั้นมีคุณสมบัติในการลดแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือนได้ดี โดยเป็นตัวช่วยดูดซับแรง และกระจายความสั่นสะเทือนออกไปไม่ให้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริเวณที่ต้องการป้องกันได้ ช่วยไม่ให้เกิดความเสียหาย และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักรได้อีกด้วย จึงถือเป็นชิ้นส่วนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการใช้งานเครื่องจักรในอุตสาหกรรม สำหรับใครที่กำลังมองหายางกันกระแทกและยางกันชนคุณภาพดี บริษัท เอส พี พี อินดัสเตรียลรับเบอร์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตยางกันกระแทก หรือยางรองแท่น และยางกันชน รวมถึง RUBBER PRODUCTS ทุกชนิด ที่ใช้ในอุตสาหกรรมแบบครบวงจร ด้วยประสบการณ์กว่า 50 ปี พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ บริษัท เอส พี พี อินดัสเตรียลรับเบอร์ จำกัด
ที่อยู่: สำนักงานใหญ่ : 80/87 หมู่ 5 ต.อ้อมน้อย กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 74130 ประเทศไทย
โทร: 02-8102317, 02-0249310
อีเมล: spp-contact@sppindus.com
Line ID: th15870, หรือ kimspp
