ยางเบิร์ดการ์ด หรือยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer Rubber Bushing หรือ Transformer Rubber Insulator) คือ ชิ้นส่วนที่ทำจากยางที่ใช้ครอบ หรือหุ้มส่วนเชื่อมต่อของหม้อแปลงไฟฟ้า โดยมีหน้าที่หลักในการป้องกันไฟฟ้ารั่ว หรือการสัมผัสของส่วนที่มีแรงดันสูงกับส่วนอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้นการออกแบบการใช้งาน และการเลือกวัสดุที่ใช้ในการผลิตเบิร์ดการ์ดนี้ จึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการนำไปใช้งาน เพราะการนำไปใช้งานเบิร์ดการ์ดต้องใช้ในที่แจ้งตากแดดและ ลม ฝน เป็นเวลาหลายปี และยากต่อการเปลี่ยน ดังนั้นเราควรคำนึงถึงเรื่องวัสดุ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุด วัสดุที่นำมาใช้ในการผลิตเบิร์ดการ์ดนั้นจำเป็นที่จะต้องเป็นฉนวนไฟฟ้า (Electrical Insulating) เพื่อให้ไฟฟ้าไม่สามารถวิ่งผ่านได้อีกด้วย
ฟังก์ชันหลักของยางครอบเบิร์ดการ์ด มีดังนี้
- ป้องกันการรั่วไหลของไฟฟ้า
- ยางครอบหม้อแปลงช่วยป้องกันไม่ให้กระแสไฟฟ้าที่มีแรงดันสูงรั่วไหลออกมา ทำให้ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าได้
- ป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรก
- ช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเข้าไปในหม้อแปลง ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของหม้อแปลงไฟฟ้า
- กันน้ำและความชื้น
- ช่วยป้องกันไม่ให้ความชื้นหรือของเหลวเข้าไปสัมผัสกับส่วนต่าง ๆ ของหม้อแปลง ซึ่งอาจทำให้หม้อแปลงเกิดการเสื่อมสภาพหรือการทำงานผิดปกติได้
- การบำรุงรักษาง่าย
- ช่วยให้การบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าง่ายขึ้น โดยสามารถป้องกันการสึกหรอหรือการกัดกร่อนได้
ยางเบิร์ดการ์ด มักทำจากวัสดุที่มีคุณสมบัติทนทานต่ออุณหภูมิสูง และความชื้น เพื่อให้สามารถทำงานได้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น สถานีไฟฟ้า หรือพื้นที่กลางแจ้งที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว
ยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในการป้องกันการรั่วไหลของไฟฟ้า การป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรก และช่วยให้หม้อแปลงไฟฟ้ามีความทนทาน และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
คุณสมบัติของยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้ามีความสำคัญในการรับมือกับสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย และการทำงานในสถานีไฟฟ้าหรือบริเวณที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง
คุณสมบัติหลักของซีลยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้า:
1. ทนทานต่อแรงดันไฟฟ้าสูง
- ยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้าทำจากวัสดุที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดี สามารถทนแรงดันไฟฟ้าสูงได้โดยไม่ทำให้เกิดการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า
2. ทนทานต่ออุณหภูมิสูงและต่ำ
- วัสดุที่ใช้ทำยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้าต้องสามารถทนทานต่ออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงได้ดี ทั้งในสภาพอากาศร้อนและเย็น เนื่องจากหม้อแปลงไฟฟ้าทำงานในช่วงอุณหภูมิที่ค่อนข้างสูง
3. ป้องกันน้ำและความชื้น
- ยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้าต้องกันน้ำและความชื้นจากภายนอกไม่ให้เข้าสู่ภายในหม้อแปลง ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานหรือการสึกหรอของอุปกรณ์ไฟฟ้าได้
4. ความยืดหยุ่นและความแข็งแรง
- ยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้าต้องมีความยืดหยุ่นเพื่อให้สามารถหุ้มและป้องกันส่วนต่าง ๆ ของหม้อแปลงได้อย่างดี และมีความแข็งแรงในการทนต่อแรงกดดันหรือแรงกระแทกจากภายนอก
5. ต้านทานการสึกหรอและการเสื่อมสภาพ
- วัสดุที่ใช้ทำยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้าควรมีความทนทานต่อการสึกหรอจากการใช้งานในระยะยาว เช่น การสัมผัสกับสารเคมีหรือสภาพแวดล้อมที่มีการสั่นสะเทือน
6. การป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรก
- ยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้ามีคุณสมบัติในการป้องกันฝุ่นหรือสิ่งสกปรกจากภายนอกไม่ให้เข้าไปภายในหม้อแปลง ซึ่งอาจทำให้เกิดการเสียหายหรือการทำงานผิดปกติได้
7. คุณสมบัติเป็นฉนวน
- ยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้ามีคุณสมบัติเป็นฉนวนที่ดี ทำให้สามารถป้องกันการสัมผัสกับส่วนที่มีแรงดันสูงได้อย่างปลอดภัย
8. ความทนทานต่อแสง UV
- สำหรับการใช้งานกลางแจ้ง ยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้าควรทนทานต่อแสง UV และไม่เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนสีเมื่อโดนแสงแดดโดยตรง
9. การติดตั้งง่าย
- ยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้าควรออกแบบให้สามารถติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว เพื่อความสะดวกในการบำรุงรักษาหรือการเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบต่าง ๆ
ยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้ามีความสำคัญในด้านการป้องกันการรั่วไหลของไฟฟ้า ป้องกันฝุ่นและความชื้น และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานหม้อแปลงไฟฟ้า โดยมีคุณสมบัติที่เหมาะสมทั้งในด้านความทนทาน และความสามารถในการเป็นฉนวนไฟฟ้า ความยืดหยุ่นและการป้องกันสารเคมีต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมการทำงาน
ทางบริษัท เอสพีพี อินดัสเตรียลรับเบอร์ เห็นความสำคัญต่อการนำไปใช้ของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่ดี มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน คุ้มค่าต่อการนำไปใช้ในระยะยาวและปลอดภัย จึงได้มีการนำเบิร์ดการ์ดไปทดสอบทั้งการเป็นฉนวนไฟฟ้า การกันรังสียูวีและอื่นๆ ตามข้อกำหนดต่างๆ ดังนี้
Test Method | หัวข้อทดสอบ |
Thermal test | ทนการทดสอบที่อุณหภูมิ 90°C ในเวลา 1 ชม. |
Power frequency withsatnd volage test | ทนการทดสอบที่แรงดัน 48 kV เป็นเวลา 1 นาที |
ทดสอบการติดไฟ (Glow wire test) | อุณหภูมิทดสอบ 650°C ไม่มีการจุดคติดไฟ |
ความทนต่อแรงดันไฟฟ้า | ทนต่อแรงดันไฟฟ้า 30 kV เป็นเวลา 3 นาทีได้ โดยไม่เกิด Breakdown / Flashover |
การทนความร้อน | ทนต่อความร้อน 90°C เป็นเวลา 1 ชม.โดยไม่หลอมละลายหรือเสียรูป |
UV TEST | ความทนสภาวะแวดล้อมเป็นเวลา 1,000 ชม. และการทนแสงอัตราไวโอเลต |
การติดตั้งยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer Bushings or Rubber Bushings) เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยในการป้องกันไฟฟ้ารั่ว และการเสื่อมสภาพของหม้อแปลงไฟฟ้า นอกจากนี้ยังช่วยในการป้องกันฝุ่น หรือสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าไปในระบบไฟฟ้าอีกด้วย วิธีการติดตั้งยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้ามีขั้นตอนที่ต้องทำอย่างระมัดระวัง
ขั้นตอนการติดตั้ง ยางเบิร์ดการ์ด
- เตรียมอุปกรณ์และวัสดุที่จำเป็น:
- ยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้าที่เหมาะสมกับขนาดของหม้อแปลง
- เครื่องมือที่จำเป็น เช่น ประแจ, คีม, ถุงมือ, และเครื่องมือช่วยติดตั้งอื่น ๆ
- ทำความสะอาดพื้นผิวของหม้อแปลงและบริเวณที่ต้องติดตั้งยางครอบ
- ตรวจสอบความเข้ากันได้ของยางครอบ:
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ายางครอบที่เตรียมไว้มีขนาด และรูปร่างตรงกับหม้อแปลงไฟฟ้าที่จะติดตั้ง
- ยางครอบควรมีความยืดหยุ่นสูงและทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีการสัมผัสกับไฟฟ้าและสภาพอากาศ
- ทำความสะอาดบริเวณที่จะติดตั้ง:
- ใช้ผ้าสะอาดหรือแปรงขัดเพื่อทำความสะอาดบริเวณที่ยางครอบจะติดตั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่อาจทำให้การติดตั้งไม่แน่นหนา
- ติดตั้งยางครอบหม้อแปลง:
- นำยางครอบที่เตรียมไว้มาเริ่มติดตั้งจากบริเวณที่ต้องการป้องกัน
- ถ้าบริเวณที่ติดตั้งมีรอยเกลียวหรือขั้วต่อไฟฟ้า ให้แน่ใจว่าติดตั้งยางครอบให้แนบสนิทและพอดี เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟฟ้ารั่วหรือสิ่งสกปรกเข้าไป
- ใช้เครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อกดหรือบีบยางครอบให้ติดแน่น ถ้ายางครอบเป็นแบบที่ต้องดึงเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการ
- ตรวจสอบความแน่นหนา:
- เมื่อยางครอบติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีช่องว่างระหว่างยางครอบและหม้อแปลง เพื่อป้องกันการรั่วไหลของไฟฟ้า
- ตรวจสอบความเรียบร้อยของการติดตั้งว่ามีการจัดตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่
- ทดสอบการทำงาน:
- หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว ควรทดสอบการทำงานของหม้อแปลงไฟฟ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการรั่วไหลของไฟฟ้า และยางครอบทำงานตามที่ออกแบบ
- บำรุงรักษา:
- ตรวจสอบยางครอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่ายางยังคงมีสภาพดีและไม่มีรอยแตกหักที่อาจทำให้การทำงานของหม้อแปลงผิดพลาด
ข้อควรระวัง:
- การติดตั้งยางครอบควรทำด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีไฟฟ้าแรงสูง ควรใช้วิธีการปิดการทำงานของหม้อแปลงก่อนที่จะทำการติดตั้ง
- ต้องเลือกยางครอบที่มีคุณสมบัติต้านทานไฟฟ้า และมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ใช้
การติดตั้งยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้าอย่างถูกต้องช่วยป้องกันการรั่วไหลของไฟฟ้าและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานหม้อแปลงไฟฟ้า.
ยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer Bushing or Rubber Bushing) เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในระบบหม้อแปลงไฟฟ้า เนื่องจากมีบทบาทในการป้องกันความเสียหายจากการสัมผัสกับไฟฟ้า และช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานของหม้อแปลงไฟฟ้า
ความสำคัญของยางครอบหม้อแลงไฟฟ้า ดังนี้
1. ป้องกันการรั่วไหลของไฟฟ้า
- ยางครอบหม้อแปลงช่วยป้องกันการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าภายในหม้อแปลงไฟฟ้าไปยังภายนอก ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายจากไฟฟ้าแรงสูง
- โดยการปิดผนึกจุดเชื่อมต่อไฟฟ้าและช่วยรักษาความปลอดภัยของการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีไฟฟ้าแรงสูง
2. ป้องกันการสัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะ
- ยางครอบช่วยป้องกันไม่ให้ผู้คนหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ สัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะหรือส่วนที่มีไฟฟ้าอยู่ภายในหม้อแปลง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอันตรายจากไฟฟ้าช็อต
3. ป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรก
- ยางครอบหม้อแปลงทำหน้าที่เป็นอุปสรรคในการป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรกจากการเข้าไปในหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพของหม้อแปลงลดลง หรือเกิดปัญหากับการทำงานของหม้อแปลง
- ช่วยยืดอายุการใช้งานของหม้อแปลงไฟฟ้าเนื่องจากการป้องกันไม่ให้มีการปนเปื้อนภายใน
4. ทนทานต่อสภาพแวดล้อม
- ยางครอบหม้อแปลงไฟฟ้าถูกออกแบบให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เช่น ความร้อน, ความชื้น, และการสัมผัสกับสารเคมีบางชนิด ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่พบได้ในสถานที่ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า
- ทำให้หม้อแปลงไฟฟ้ามีความเสถียรและปลอดภัยในการทำงานในระยะยาว
5. ช่วยในการป้องกันการเสียหายจากแรงกดดัน
- ในกรณีที่หม้อแปลงไฟฟ้าประสบกับแรงดันไฟฟ้าหรือแรงกดดันจากภายนอก ยางครอบสามารถช่วยดูดซับแรงกดดันที่เกิดขึ้น ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้หม้อแปลงหรือส่วนประกอบอื่น ๆ เกิดความเสียหาย
6. การบำรุงรักษาง่าย
- การใช้ยางครอบช่วยให้การบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นไปได้ง่ายขึ้น เนื่องจากยางครอบจะช่วยป้องกันการสะสมของฝุ่นหรือสารปนเปื้อนที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของหม้อแปลง
7. ลดความเสี่ยงจากการเกิดอัคคีภัย
- การที่ยางครอบช่วยป้องกันการรั่วไหลของไฟฟ้าและทำให้หม้อแปลงไฟฟ้ามีการทำงานที่ปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอัคคีภัยที่อาจเกิดจากการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า
ยางเบิร์ดการ์ด มีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงานของหม้อแปลงไฟฟ้า ช่วยป้องกันการรั่วไหลของไฟฟ้า, การสัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะ, ฝุ่นและสิ่งสกปรก, รวมถึงการป้องกันการเสียหายจากแรงกดดันและสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ยังช่วยให้การบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นไปได้ง่ายขึ้นและยืดอายุการใช้งาน