ยางแผ่นซิลิโคน (Silicone Rubber Sheet) คือ วัสดุที่ทำจากซิลิโคน ซึ่งเป็นยางสังเคราะห์ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูง ทนต่ออุณหถูมิสูง-ต่ำได้ดี ซิลิโคนมักใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการวัสดุที่ทนทานและมีความยืดหยุ่น เช่น อุตสาหกรรมการผลิตอาหาร การแพทย์ หรือการผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า

แผ่นยางซิลิโคนมีคุณสมบัติเด่นที่สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดี (ประมาณ -60°C ถึง 230°C) และไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ มักใช้ทำซีล (Seal) ปะเก็น (Gaskets) หรือแผ่นกันกระแทกในงานต่างๆ ที่ต้องการวัสดุที่ทนทานและปลอดภัย

ยางแผ่นซิลิโคนมีคุณสมบัติหลายอย่าง จึงเป็นวัสดุที่นิยมใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ดังนี้

1. ทนต่ออุณหภูมิสูงและต่ำ
ยางซิลิโคนสามารถทนต่ออุณหภูมิได้กว้างมาก ตั้งแต่ -60°C ถึง 230°C (บางชนิดอาจทนได้สูงกว่านี้) ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงมาก เช่น งานที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์หรืออุตสาหกรรมการผลิตอาหาร

2. ความยืดหยุ่นสูง
ยางซิลิโคนมีความยืดหยุ่นสูงและสามารถคืนรูปเดิมได้ดีเมื่อถูกยืดหรือบีบ ทำให้มันใช้เป็นวัสดุสำหรับทำซีล (seal) หรือปะเก็น (gasket) ในการป้องกันการรั่วซึมของของเหลวและก๊าซ

3. ทนทานต่อการเสื่อมสภาพ
ซิลิโคนมีคุณสมบัติทนต่อการเสื่อมสภาพจากแสงแดด, การออกซิเดชัน, และความชื้น จึงใช้ได้ยาวนานในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศหรืออากาศชื้น

4. ไม่เป็นพิษและปลอดภัย
ซิลิโคนไม่เป็นพิษและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้สามารถใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและการแพทย์ได้อย่างปลอดภัย

5. คุณสมบัติกันน้ำ
เนื่องจากมีความยืดหยุ่นและทนทานต่อแรงกระแทก ยางซิลิโคนจึงเหมาะสำหรับใช้ทำวัสดุกันน้ำ เช่น ซีลยางในเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ

6. การประยุกต์ใช้งานที่หลากหลาย
ยางซิลิโคนใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอาหาร การแพทย์ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ และการสร้างอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องการวัสดุที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัว

ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายและทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ยางแผ่นซิลิโคนจึงเป็นวัสดุที่นิยมใช้งานในหลายอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานและความปลอดภัย

อีกทั้งยางแผ่นซิลิโคนมีคุณสมบัติที่เหนือกว่ายางแผ่นชนิดอื่นๆ หลายด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของความทนทานและความสามารถในการใช้งานในสภาวะที่ยางชนิดอื่นๆ ไม่สามารถทนได้

ความแตกต่างระหว่าง ยางแผ่นซิลิโคน และยางแผ่นชนิดอื่นๆ มีดังนี้

1. ทนต่ออุณหภูมิสูงและต่ำมากกว่ายางทั่วไป
ยางซิลิโคนสามารถทนต่ออุณหภูมิได้กว้างมาก (ประมาณ -60°C ถึง 230°C หรือบางชนิดอาจทนได้สูงกว่านี้) ซึ่งยางธรรมชาติ (NR) หรือยางสังเคราะห์อื่นๆ อย่างเช่น EPDM หรือ NBR ไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงหรือเย็นได้ดีเท่านี้

2. ปลอดภัยและไม่เป็นพิษ
ยางซิลิโคนไม่เป็นพิษและไม่ทำปฏิกิริยากับอาหารหรือสารที่ใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์ จึงเหมาะสำหรับใช้งานในอุตสาหกรรมที่ต้องการวัสดุปลอดภัย เช่น อุตสาหกรรมอาหารหรือเครื่องมือแพทย์ ขณะที่ยางชนิดอื่นๆ อาจมีสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

3. คุณสมบัติยืดหยุ่นสูงและคืนรูปดี
ซิลิโคนมีความยืดหยุ่นสูงและสามารถคืนรูปเดิมได้ดีเมื่อถูกบีบหรือยืด แตกต่างจากยางธรรมชาติที่อาจสูญเสียความยืดหยุ่นเมื่อใช้งานไปนานๆ

4. ทนทานต่อไฟและอุณหภูมิสูง
สำหรับยางซิลิโคนชนิดที่มีคุณสมบัติไม่ลามไฟ (fire-resistant) ซึ่งทำให้มันเหมาะสำหรับใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงจากไฟไหม้ เช่น ในอุตสาหกรรมไฟฟ้า หรือในยานยนต์ ส่วนยางธรรมชาติและบางชนิดอาจไม่ทนทานต่อไฟได้ดีเท่า

5. การทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง
ซิลิโคนไม่ดูดซับน้ำและไม่เกิดการเสื่อมสภาพในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง ในขณะที่ยางอื่นๆ เช่น EPDM หรือ NBR อาจเสื่อมสภาพหรือสูญเสียคุณสมบัติเมื่อสัมผัสกับความชื้นมาก

6. ทนต่อการเสื่อมสภาพจากรังสี UV และโอโซน
ซิลิโคนทนต่อการเสื่อมสภาพจากรังสี UV และโอโซนได้ดีกว่า โดยไม่แตกหรือเสียรูป จึงเหมาะสำหรับใช้งานกลางแจ้งที่ต้องเจอแสงแดดหรือสภาพแวดล้อมที่มีโอโซน

7. การทำงานในอุตสาหกรรมอาหารและยา
เนื่องจากซิลิโคนไม่ปล่อยสารพิษเมื่อสัมผัสกับอาหารหรือในกระบวนการทางการแพทย์ จึงเป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับการทำซีลในเครื่องจักรอาหารหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งยางชนิดอื่นๆ อาจไม่สามารถตอบสนองความต้องการนี้ได้

ดังนั้น ยางแผ่นซิลิโคนจึงมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าหลายด้านเมื่อเทียบกับยางชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะในเรื่องความทนทาน ความปลอดภัย และการใช้งานในสภาวะแวดล้อมที่รุนแรง